firmament ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร
ความหมายของคำว่า firmament ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ firmament ใน ภาษาอังกฤษ
คำว่า firmament ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง ท้องฟ้า, นภา, ฟ้า หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง
ความหมายของคำว่า firmament
ท้องฟ้าnoun Let us brighten this firmament. รัศมีดาราจะพุ่งขึ้นจับท้องฟ้า |
นภาnoun 15 And let them be for lights in the firmament of the heaven to give light upon the earth; and it was so. ๑๕ และให้มันเป็นแสงในท้องนภาแห่งฟ้าสวรรค์เพื่อให้ความสว่างบนแผ่นดินโลก; และมันเป็นเช่นนั้น. |
ฟ้าnoun Let us brighten this firmament. รัศมีดาราจะพุ่งขึ้นจับท้องฟ้า |
ดูตัวอย่างเพิ่มเติม
15 And let them be for lights in the firmament of the heaven to give light upon the earth; and it was so. ๑๕ และให้มันเป็นแสงในท้องนภาแห่งฟ้าสวรรค์เพื่อให้ความสว่างบนแผ่นดินโลก; และมันเป็นเช่นนั้น. |
7 And I, God, made the firmament and divided the awaters, yea, the great waters under the firmament from the waters which were above the firmament, and it was so even as I spake. ๗ และเรา, พระผู้เป็นเจ้า, รังสรรค์ท้องนภาและแยกผืนน้ําก, แท้จริงแล้ว, ผืนน้ํากว้างใหญ่ภายใต้ท้องนภาจากผืนน้ําซึ่งอยู่เหนือท้องนภา, และมันเป็นเช่นนั้นแม้ดังที่เราพูดไว้. |
They were quick to appreciate the dazzling flash of divine light that emblazoned the theocratic firmament in 1935, at Jehovah’s due time. พวก เขา ไว ต่อ การ สังเกต เห็น แสง ที่ เจิดจ้า จาก พระเจ้า ซึ่ง ส่อง สว่าง ทั่ว ฟ้า สวรรค์ ตาม ระบอบ ของ พระเจ้า ใน ปี 1935 ณ เวลา กําหนด ของ พระ ยะโฮวา. |
71 And again, we saw the aterrestrial world, and behold and lo, these are they who are of the terrestrial, whose glory differs from that of the church of the bFirstborn who have received the fulness of the Father, even as that of the cmoon differs from the sun in the firmament. ๗๑ และอนึ่ง, เราเห็นโลกเทอร์เรสเตรียลก, และดูเถิดและดูสิ, คนเหล่านี้คือคนที่เป็นของเทอร์เรสเตรียล, ซึ่งรัศมีภาพของพวกเขาแตกต่างจากรัศมีภาพของศาสนจักรของพระบุตรหัวปีผู้ทรงได้รับความสมบูรณ์แห่งพระบิดา, แม้ดังรัศมีภาพของดวงจันทร์ขแตกต่างจากดวงอาทิตย์ในท้องนภา. |
109 But behold, and lo, we saw the glory and the inhabitants of the telestial world, that they were as ainnumerable as the stars in the firmament of heaven, or as the sand upon the seashore; ๑๐๙ แต่ดูเถิด, และดูสิ, เราเห็นรัศมีภาพและผู้อยู่อาศัยของโลกทีเลสเชียล, ว่าพวกเขามีจํานวนนับไม่ถ้วนดังดวงดาวในท้องนภาแห่งฟ้าสวรรค์, หรือดังทรายแห่งฝั่งทะเล; |
Let us brighten this firmament. รัศมีดาราจะพุ่งขึ้นจับท้องฟ้า |
14 And I, God, said: Let there be alights in the firmament of the heaven, to divide the day from the night, and let them be for signs, and for seasons, and for days, and for years; ๑๔ และเรา, พระผู้เป็นเจ้า, กล่าว : จงบังเกิดแสงทั้งหลายในท้องนภาแห่งฟ้าสวรรค์, เพื่อแยกกลางวันจากกลางคืน, และให้มันเป็นเครื่องหมาย, และเป็นฤดูกาล, และเป็นวัน, และเป็นปี; |
Burning Man's irreverent humor comes out in pieces like Rebekah Waites' "Church Trap," a tiny country chapel set precariously on a wooden beam, like a mousetrap, that lured participants in to find religion -- it was built and burned in 2013 ... while other works, like Christopher Schardt's "Firmament," aim for the sublime. อารมณ์ขันแบบฉีกแนวของเบิร์นนิงแมน ถูกแสดงออกมา อย่างเช่นผลงาน "กับดักโบสถ์" ของรีบีคาห์ วิเทส วิหารชนบทน้อย ที่ตั้งอย่างไม่มั่นคง บนระแนงไม้ หน้าตาคลายกับดักหนู และลวงผู้เข้าร่วมงาน ให้เขาไปแสวงหาศาสนา มันถูกสร้างขึ้นและเผาทิ้งไปในปี ค.ศ. 2013 ในขณะที่ผลงานอื่น ๆ เช่น "เวหา" ของคริสโตเฟอร์ ชาร์ต ให้คุณค่ากับความบริสุทธิ์ |
From this the argument is made that the Genesis account borrowed from creation myths that represent this “firmament” as a metal dome. ด้วย เหตุ นี้ จึง มี การ โต้ แย้ง กัน ว่า เรื่อง ราว ที่ มี อยู่ ใน พระ ธรรม เยเนซิศ นั้น เอา มา จาก ตํานาน การ สร้าง ซึ่ง แสดง ว่า “พื้น อากาศ” นี้ เป็น เหมือน หลังคา โลหะ มี ลักษณะ โค้ง. |
The Prophet Joseph Smith saw the following in vision, later recorded in Doctrine and Covenants 76:81–85, 100–106, 110–12: “And again, we saw the glory of the telestial, which glory is that of the lesser, even as the glory of the stars differs from that of the glory of the moon in the firmament. ศาสดาโจเซฟ สป็ธเห็นสิ่งต่อไปนี้ในภาพปรากฏ ซึ่งต่อมาบันทึกไปีนคําสอนและพันธสัญญา 76:81–85, 100–106, 110–112 “และอนึ่ง เราเห็นรัศมี ภาพของชั้นด้น ซึ่งรัศมีภาพนั้นเปีนรัศมีภาพของชั้นที่ตํ่ากว่า แม้ดังที่รัศมีภาพ ของดวงดาวแตกต่างจากรัศมีภาพที่เปีนของดวงจันทร์ในเวหา |
81 And again, we asaw the glory of the btelestial, which glory is that of the lesser, even as the cglory of the stars differs from that of the glory of the moon in the firmament. ๘๑ และอนึ่ง, เราเห็นรัศมีภาพของทีเลสเชียลก, ซึ่งรัศมีภาพนั้นเป็นรัศมีภาพที่ต่ํากว่า, แม้ดังที่รัศมีภาพของดวงดาวแตกต่างจากรัศมีภาพที่เป็นของดวงจันทร์ในท้องนภา. |
20 And I, God, said: Let the waters bring forth abundantly the moving creature that hath life, and fowl which may fly above the earth in the open firmament of heaven. ๒๐ และเรา, พระผู้เป็นเจ้า, กล่าว : ผืนน้ําจงบังเกิดอย่างอุดมด้วยสัตว์โลกเคลื่อนไหวที่มีชีวิต, และสัตว์ปีกซึ่งจะบินเหนือพื้นดินในท้องนภาอันโล่งกว้างแห่งฟ้าสวรรค์. |
And he said unto me: Kokaubeam, which signifies stars, or all the great lights, which were in the firmament of heaven. และพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้า : โคคอบีม, ซึ่งให้ความหมายถึงหมู่ดาว, หรือแสงที่เจิดจ้าทั้งปวง, ซึ่งอยู่ในท้องนภาแห่งฟ้าสวรรค์. |
From earliest times, humans have observed the precise movements of the heavenly bodies across the night sky and the seasonal changes of their locations in the firmament. มนุษย์ ได้ สังเกต เห็น ตั้ง แต่ ยุค แรก ๆ แล้ว ว่า ดวง ดาว บน ท้องฟ้า ยาม ค่ํา คืน มี การ เคลื่อน ที่ อย่าง แม่นยํา และ ตําแหน่ง ของ มัน เปลี่ยน ไป ตาม ฤดู กาล. |
But even the King James Version Bible, which uses “firmament,” says in the margin, “expansion.” แม้ แต่ คัมภีร์ ฉบับ คิงเจมส์ ซึ่ง ใช้ คํา ว่า “firmament” ก็ ได้ ให้ คํา อธิบาย ใน ช่อง หมายเหตุ ว่า เป็น “พื้น อากาศ.” |
12 Some translations use the word “firmament” instead of “expanse.” 12 คัมภีร์ ฉบับ แปล บาง ฉบับ ใช้ คํา “firmament” (หลังคา โค้ง) แทน คํา “พื้น อากาศ.” |
The Prophet Joseph Smith saw the following in vision, later recorded in Doctrine and Covenants 76:71–79: “And again, we saw the terrestrial world, and behold and lo, these are they who are of the terrestrial, whose glory differs from that of the church of the Firstborn who have received the fulness of the Father, even as that of the moon differs from the sun in the firmament. ศาสดาโจเซฟ สป็ธเห็นสิ่งต่อไปนี้ในภาพ ซึ่งต่อมาบนทึกไว้ในคําสอนและพันธสัญญา 76:71–79 “และอนึ่ง เราเห็นโลกชั้นกลาง และดูเถิดและนี่แน่ะ คนเหล่านี้คือคนที่เป็นของชั้นกลาง ซึ่งรัศมีภาพของเขาแตกต่างจากรัศมีภาพ ของศาสนาจักรของพระบุตรหัวปี ผู้ได้รับความบริบูรณ์ของพระบิดา แม้ดังรัศมี ภาพของดวงจันทร์แตกต่างจากดวงอาทิตย์ในเวหา |
8 And I, God, called the firmament aHeaven; and the evening and the morning were the second day. ๘ และเรา, พระผู้เป็นเจ้า, เรียกท้องนภาว่าฟ้าสวรรค์ก; และเวลาค่ําและเวลาเช้าเป็นวันที่สอง. |
17 And I, God, set them in the firmament of the heaven to give light upon the earth, ๑๗ และเรา, พระผู้เป็นเจ้า, วางสิ่งเหล่านั้นไว้ในท้องนภาแห่งฟ้าสวรรค์เพื่อให้ความสว่างบนแผ่นดินโลก, |
70 These are they whose bodies are acelestial, whose bglory is that of the csun, even the glory of God, the dhighest of all, whose glory the sun of the firmament is written of as being typical. ๗๐ คนเหล่านี้คือคนที่ร่างกายของพวกเขาเป็นของซีเลสเชียลก, ซึ่งรัศมีภาพขของพวกเขาเป็นรัศมีภาพของดวงอาทิตย์ค, แม้รัศมีภาพของพระผู้เป็นเจ้า, ผู้สูงสุดในบรรดาสิ่งทั้งปวง, ซึ่งรัศมีภาพของผู้นั้นดวงอาทิตย์แห่งท้องนภามีเขียนไว้ว่าเป็นแบบนั้น. |
มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ
ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ firmament ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ
คำที่เกี่ยวข้องของ firmament
คำพ้องความหมาย
อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ
คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม
ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว